นี่คือรายการนโยบายที่ Google Chrome ปฏิบัติตาม คุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนการตั้งค่าเหล่านี้ด้วยตนเอง! คุณสามารถดาวน์โหลดแม่แบบที่ง่ายต่อการใช้งานได้จาก
http://www.chromium.org/administrators/policy-templates รายการนโยบายที่ได้รับการสนับสนุนของ Chromium และ Google Chrome จะเหมือนกัน แต่ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows จะแตกต่างกัน นโยบายของ Chromium จะขึ้นต้นด้วย Software\Policies\Chromium ส่วนนโยบายของ Google Chrome จะขึ้นต้นด้วย Software\Policies\Google\Chrome


ชื่อนโยบายคำอธิบาย
การตั้งค่าเนื้อหา
DefaultCookiesSettingการตั้งค่าคุกกี้เริ่มต้น
DefaultImagesSettingการตั้งค่าภาพเริ่มต้น
DefaultJavaScriptSettingการตั้งค่า JavaScript เริ่มต้น
DefaultPluginsSettingการตั้งค่าปลั๊กอินเริ่มต้น
DefaultPopupsSettingการตั้งค่าป๊อปอัปเริ่มต้น
DefaultNotificationSettingการตั้งค่าการแจ้งเตือนเริ่มต้น
DefaultGeolocationSettingการตั้งค่าตำแหน่งทางภูมิศาสตร์เริ่มต้น
CookiesAllowedForUrlsอนุญาตให้ใช้คุกกี้บนไซต์เหล่านี้
CookiesBlockedForUrlsปิดกั้นคุกกี้บนไซต์เหล่านี้
CookiesSessionOnlyForUrlsอนุญาตให้ใช้คุกกี้เฉพาะเซสชันเท่านั้นบนไซต์เหล่านี้
ImagesAllowedForUrlsอนุญาตให้แสดงภาพบนไซต์เหล่านี้
ImagesBlockedForUrlsปิดกั้นภาพบนไซต์เหล่านี้
JavaScriptAllowedForUrlsอนุญาตให้ใช้ JavaScript บนไซต์เหล่านี้
JavaScriptBlockedForUrlsปิดกั้น JavaScript บนไซต์เหล่านี้
PluginsAllowedForUrlsอนุญาตให้ใช้ปลั๊กอินบนไซต์เหล่านี้
PluginsBlockedForUrlsปิดกั้นปลั๊กอินบนไซต์เหล่านี้
PopupsAllowedForUrlsอนุญาตให้แสดงป๊อปอัปบนไซต์เหล่านี้
PopupsBlockedForUrlsปิดกั้นป๊อปอัปบนไซต์เหล่านี้
ตัวจัดการรหัสผ่าน
PasswordManagerEnabledเปิดใช้งานตัวจัดการรหัสผ่าน
PasswordManagerAllowShowPasswordsอนุญาตให้ผู้ใช้แสดงรหัสผ่านในตัวจัดการรหัสผ่าน
นโยบายในการตรวจสอบสิทธิ์ HTTP
AuthSchemesสกีมการตรวจสอบสิทธิ์ที่ได้รับการสนับสนุน
DisableAuthNegotiateCnameLookupปิดใช้งานการค้นหา CNAME เมื่อมีการเจรจาตรวจสอบสิทธิ์ Kerberos
EnableAuthNegotiatePortรวมพอร์ตที่ไม่ใช่แบบมาตรฐานใน Kerberos SPN
AuthServerWhitelistรายการที่อนุญาตสำหรับเซิร์ฟเวอร์การตรวจสอบสิทธิ์
AuthNegotiateDelegateWhitelistรายการที่อนุญาตสำหรับเซิร์ฟเวอร์การมอบสิทธิ์ของ Kerberos
GSSAPILibraryNameชื่อไลบรารี GSSAPI
AllowCrossOriginAuthPromptข้อความแจ้งการตรวจสอบสิทธิ์พื้นฐาน HTTP ข้ามจุด
ผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น
DefaultSearchProviderEnabledเปิดใช้งานผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น
DefaultSearchProviderNameชื่อผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น
DefaultSearchProviderKeywordคำหลักของผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น
DefaultSearchProviderSearchURLURL การค้นหาของผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น
DefaultSearchProviderSuggestURLURL ที่แนะนำโดยผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น
DefaultSearchProviderInstantURLURL ค้นหาทันใจของผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น
DefaultSearchProviderIconURLไอคอนของผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น
DefaultSearchProviderEncodingsการเข้ารหัสของผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น
พร็อกซีเซิร์ฟเวอร์
ProxyModeเลือกวิธีระบุการตั้งค่าพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์
ProxyServerModeเลือกวิธีระบุการตั้งค่าพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์
ProxyServerที่อยู่หรือ URL ของพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์
ProxyPacUrlURL ไปยังไฟล์ .pac ของพร็อกซี
ProxyBypassListกฎการข้ามพร็อกซี
ส่วนขยาย
ExtensionInstallBlacklistกำหนดค่ารายการที่ไม่อนุญาตสำหรับการติดตั้งส่วนขยาย
ExtensionInstallWhitelistกำหนดค่ารายการที่อนุญาตสำหรับการติดตั้งส่วนขยาย
ExtensionInstallForcelistกำหนดค่ารายการส่วนขยายที่บังคับให้ติดตั้ง
หน้าเริ่มต้นใช้งาน
RestoreOnStartupการดำเนินการเมื่อเริ่มต้นใช้งาน
RestoreOnStartupURLsURL ที่จะเปิดเมื่อเริ่มต้นใช้งาน
หน้าแรก
HomepageLocationกำหนดค่า URL ของหน้าแรก
HomepageIsNewTabPageใช้หน้าแท็บใหม่เป็นหน้าแรก
อนุญาตให้ Google Chrome Frame จัดการประเภทเนื้อหาดังต่อไปนี้
ChromeFrameContentTypesอนุญาตให้ Google Chrome Frame จัดการประเภทเนื้อหาดังต่อไปนี้
โปรแกรมแสดง HTML เริ่มต้นสำหรับ Google Chrome Frame
ChromeFrameRendererSettingsโปรแกรมแสดง HTML เริ่มต้นสำหรับ Google Chrome Frame
RenderInChromeFrameListแสดงรูปแบบ URL ต่อไปนี้ใน Google Chrome Frame
RenderInHostListแสดงรูปแบบ URL ต่อไปนี้เสมอในเบราว์เซอร์โฮสต์
AllowFileSelectionDialogsอนุญาตให้เรียกดูช่องโต้ตอบสำหรับการเลือกไฟล์ได้
AllowOutdatedPluginsอนุญาตให้เรียกใช้ปลั๊กอินที่เก่าแล้ว
AlternateErrorPagesEnabledเปิดใช้งานหน้าเว็บแสดงข้อผิดพลาดสำรอง
AlwaysAuthorizePluginsเรียกใช้ปลั๊กอินที่ต้องมีการให้สิทธิ์เสมอ
ApplicationLocaleValueภาษาของแอปพลิเคชัน
AutoFillEnabledเปิดใช้งานการป้อนอัตโนมัติ
BlockThirdPartyCookiesปิดกั้นคุกกี้ของบุคคลที่สาม
BookmarkBarEnabledเปิดใช้งานแถบบุ๊กมาร์ก
ChromeOsLockOnIdleSuspendเปิดใช้งานการล็อกเมื่อไม่ได้ใช้งานหรือระงับใช้อุปกรณ์ Chrome OS ชั่วคราว
ClearSiteDataOnExitล้างข้อมูลไซต์เมื่อปิดเบราว์เซอร์
DefaultBrowserSettingEnabledตั้งค่า Chrome เป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้น
DeveloperToolsDisabledปิดใช้งานเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์
Disable3DAPIsปิดใช้งานการสนับสนุน API ของกราฟิก 3 มิติ
DisablePluginFinderระบุว่าเครื่องมือค้นหาปลั๊กอินควรจะปิดใช้งานหรือไม่
DisableSpdyปิดใช้งานโปรโตคอล SPDY
DisabledPluginsระบุรายการปลั๊กอินที่ปิดใช้งาน
DisabledPluginsExceptionsระบุรายการปลั๊กอินที่ผู้ใช้สามารถเปิดหรือปิดใช้งาน
DisabledSchemesปิดใช้งานสกีมโปรโตคอล URL
DiskCacheDirตั้งค่าไดเรกทอรีสำหรับแคชของดิสก์
DnsPrefetchingEnabledเปิดใช้งานการคาดการณ์เครือข่าย
DownloadDirectoryตั้งค่าไดเรกทอรีสำหรับดาวน์โหลด
EditBookmarksEnabledเปิดหรือปิดใช้งานการแก้ไขบุ๊กมาร์ก
EnabledPluginsระบุรายการปลั๊กอินที่เปิดใช้งาน
GCFUserDataDirตั้งค่าไดเรกทอรีข้อมูลผู้ใช้ของ Google Chrome Frame
IncognitoEnabledเปิดใช้งานโหมดไม่ระบุตัวตน
InstantEnabledเปิดใช้งานค้นหาทันใจ
JavascriptEnabledเปิดใช้งาน JavaScript
MetricsReportingEnabledเปิดใช้งานการรายงานการใช้และข้อมูลเกี่ยวกับการขัดข้อง
PolicyRefreshRateอัตราการรีเฟรชนโยบาย
PrintingEnabledเปิดใช้งานการพิมพ์
SafeBrowsingEnabledเปิดใช้งาน Safe Browsing
SavingBrowserHistoryDisabledปิดใช้งานการบันทึกประวัติเบราว์เซอร์
SearchSuggestEnabledเปิดใช้งานคำแนะนำในการค้นหา
ShowHomeButtonแสดงปุ่ม "หน้าแรก" บนแถบเครื่องมือ
SyncDisabledปิดใช้งานการซิงค์ข้อมูลกับ Google
TranslateEnabledเปิดใช้งานแปลภาษา
UserDataDirตั้งค่าไดเรกทอรีข้อมูลผู้ใช้

การตั้งค่าเนื้อหา

การตั้งค่าเนื้อหาช่วยให้คุณระบุวิธีจัดการเนื้อหาบางประเภท (เช่น คุกกี้ รูปภาพ หรือ JavaScript)
กลับไปด้านบน

DefaultCookiesSetting

การตั้งค่าคุกกี้เริ่มต้น
ประเภทข้อมูล:
Integer (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\DefaultCookiesSetting
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
DefaultCookiesSetting
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 10
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ช่วยให้คุณกำหนดได้ว่าจะอนุญาตให้เว็บไซต์ตั้งค่าข้อมูลภายในเครื่องหรือไม่ คุณสามารถอนุญาตหรือปฏิเสธการตั้งค่าข้อมูลภายในเครื่องสำหรับทุกเว็บไซต์
  • 0 = อนุญาตให้ทุกไซต์ตั้งค่าข้อมูลภายในเครื่อง
  • 1 = ไม่อนุญาตให้ไซต์ใดๆ ตั้งค่าข้อมูลในตัวเครื่อง
ค่าตัวอย่าง:
0x00000000 (Windows), 0 (Linux/Mac)
กลับไปด้านบน

DefaultImagesSetting

การตั้งค่าภาพเริ่มต้น
ประเภทข้อมูล:
Integer (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\DefaultImagesSetting
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
DefaultImagesSetting
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 10
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ช่วยให้คุณกำหนดได้ว่าจะอนุญาตให้เว็บไซต์แสดงภาพหรือไม่ คุณสามารถอนุญาตหรือปฏิเสธการแสดงภาพสำหรับทุกเว็บไซต์
  • 0 = อนุญาตให้ไซต์ทั้งหมดแสดงภาพทั้งหมด
  • 1 = ไม่อนุญาตให้ไซต์ใดแสดงภาพ
ค่าตัวอย่าง:
0x00000000 (Windows), 0 (Linux/Mac)
กลับไปด้านบน

DefaultJavaScriptSetting

การตั้งค่า JavaScript เริ่มต้น
ประเภทข้อมูล:
Integer (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\DefaultJavaScriptSetting
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
DefaultJavaScriptSetting
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 10
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ช่วยให้คุณกำหนดได้ว่าจะอนุญาตให้เว็บไซต์เรียกใช้ JavaScript หรือไม่ คุณสามารถอนุญาตหรือปฏิเสธการเรียกใช้ JavaScript สำหรับทุกเว็บไซต์
  • 0 = อนุญาตให้ไซต์ทั้งหมดเรียกใช้ JavaScript
  • 1 = ไม่อนุญาตให้ไซต์ใดๆ เรียกใช้ JavaScript
ค่าตัวอย่าง:
0x00000000 (Windows), 0 (Linux/Mac)
กลับไปด้านบน

DefaultPluginsSetting

การตั้งค่าปลั๊กอินเริ่มต้น
ประเภทข้อมูล:
Integer (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\DefaultPluginsSetting
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
DefaultPluginsSetting
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 10
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ช่วยให้คุณกำหนดได้ว่าจะอนุญาตให้เว็บไซต์เรียกใช้งานปลั๊กอินโดยอัตโนมัติหรือไม่ คุณสามารถอนุญาตหรือปฏิเสธการใช้ปลั๊กอินที่ทำงานโดยอัตโนมัติสำหรับทุกเว็บไซต์
  • 0 = อนุญาตให้ไซต์ทั้งหมดเรียกใช้ปลั๊กอินโดยอัตโนมัติ
  • 1 = ปิดกั้นปลั๊กอินทั้งหมด
ค่าตัวอย่าง:
0x00000000 (Windows), 0 (Linux/Mac)
กลับไปด้านบน

DefaultPopupsSetting

การตั้งค่าป๊อปอัปเริ่มต้น
ประเภทข้อมูล:
Integer (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\DefaultPopupsSetting
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
DefaultPopupsSetting
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 10
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ช่วยให้คุณกำหนดได้ว่าจะอนุญาตให้เว็บไซต์แสดงป๊อปอัปหรือไม่ คุณสามารถอนุญาตหรือปฏิเสธการแสดงป๊อปอัปสำหรับทุกเว็บไซต์
  • 0 = อนุญาตให้ไซต์ทั้งหมดแสดงป๊อปอัป
  • 1 = ไม่อนุญาตให้ไซต์ใดๆ แสดงป๊อปอัป
ค่าตัวอย่าง:
0x00000001 (Windows), 1 (Linux/Mac)
กลับไปด้านบน

DefaultNotificationSetting

การตั้งค่าการแจ้งเตือนเริ่มต้น
ประเภทข้อมูล:
Integer (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\DefaultNotificationSetting
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
DefaultNotificationSetting
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 10
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ช่วยให้คุณกำหนดได้ว่าจะอนุญาตให้เว็บไซต์แสดงข้อความการแจ้งเตือนของเดสก์ท็อปหรือไม่ คุณสามารถอนุญาตหรือปฏิเสธการแสดงข้อความการแจ้งเตือนของเดสก์ท็อปได้โดยค่าเริ่มต้น หรือจะให้มีการสอบถามผู้ใช้ทุกครั้งที่เว็บไซต์ต้องการแสดงข้อความการแจ้งเตือนของเดสก์ท็อปก็ได้
  • 0 = อนุญาตให้ไซต์แสดงการแจ้งเตือนของเดสก์ท็อป
  • 1 = ไม่อนุญาตให้ไซต์ใดๆ แสดงการแจ้งเตือนของเดสก์ท็อป
  • 2 = ถามทุกครั้งที่ไซต์ต้องการแสดงการแจ้งเตือนของเดสก์ท็อป
ค่าตัวอย่าง:
0x00000002 (Windows), 2 (Linux/Mac)
กลับไปด้านบน

DefaultGeolocationSetting

การตั้งค่าตำแหน่งทางภูมิศาสตร์เริ่มต้น
ประเภทข้อมูล:
Integer (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\DefaultGeolocationSetting
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
DefaultGeolocationSetting
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 10
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ช่วยให้คุณกำหนดได้ว่าจะอนุญาตให้เว็บไซต์ติดตามตำแหน่งทางกายภาพของผู้ใช้หรือไม่ คุณสามารถอนุญาตหรือปฏิเสธการติดตามตำแหน่งทางกายภาพของผู้ใช้โดยค่าเริ่มต้น หรือจะให้สอบถามผู้ใช้ทุกครั้งที่หน้าเว็บไซต์เรียกขอตำแหน่งทางกายภาพก็ได้
  • 0 = อนุญาตให้ไซต์ติดตามตำแหน่งทางกายภาพของผู้ใช้
  • 1 = ไม่อนุญาตให้ไซต์ใดๆ ติดตามตำแหน่งทางกายภาพของผู้ใช้
  • 2 = ถามเมื่อไซต์ต้องการติดตามตำแหน่งทางกายภาพของผู้ใช้
ค่าตัวอย่าง:
0x00000000 (Windows), 0 (Linux/Mac)
กลับไปด้านบน

CookiesAllowedForUrls

อนุญาตให้ใช้คุกกี้บนไซต์เหล่านี้
ประเภทข้อมูล:
List of strings
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\CookiesAllowedForUrls
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
CookiesAllowedForUrls
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 11
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ช่วยให้คุณกำหนดรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุไซต์ที่ได้รับอนุญาตให้ตั้งค่าคุกกี้
ค่าตัวอย่าง:
Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\CookiesAllowedForUrls\1 = "http://www.example.com" Software\Policies\Google\Chrome\CookiesAllowedForUrls\2 = "[*.]example.edu"
Linux:
["http://www.example.com", "[*.]example.edu"]
Mac:
<array> <string>http://www.example.com</string> <string>[*.]example.edu</string> </array>
กลับไปด้านบน

CookiesBlockedForUrls

ปิดกั้นคุกกี้บนไซต์เหล่านี้
ประเภทข้อมูล:
List of strings
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\CookiesBlockedForUrls
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
CookiesBlockedForUrls
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 11
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ช่วยให้คุณกำหนดรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุไซต์ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ตั้งค่าคุกกี้
ค่าตัวอย่าง:
Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\CookiesBlockedForUrls\1 = "http://www.example.com" Software\Policies\Google\Chrome\CookiesBlockedForUrls\2 = "[*.]example.edu"
Linux:
["http://www.example.com", "[*.]example.edu"]
Mac:
<array> <string>http://www.example.com</string> <string>[*.]example.edu</string> </array>
กลับไปด้านบน

CookiesSessionOnlyForUrls

อนุญาตให้ใช้คุกกี้เฉพาะเซสชันเท่านั้นบนไซต์เหล่านี้
ประเภทข้อมูล:
List of strings
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\CookiesSessionOnlyForUrls
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
CookiesSessionOnlyForUrls
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 11
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ช่วยให้คุณกำหนดรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุไซต์ที่ได้รับอนุญาตให้ตั้งค่าคุกกี้เฉพาะเซสชันเท่านั้น
ค่าตัวอย่าง:
Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\CookiesSessionOnlyForUrls\1 = "http://www.example.com" Software\Policies\Google\Chrome\CookiesSessionOnlyForUrls\2 = "[*.]example.edu"
Linux:
["http://www.example.com", "[*.]example.edu"]
Mac:
<array> <string>http://www.example.com</string> <string>[*.]example.edu</string> </array>
กลับไปด้านบน

ImagesAllowedForUrls

อนุญาตให้แสดงภาพบนไซต์เหล่านี้
ประเภทข้อมูล:
List of strings
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\ImagesAllowedForUrls
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
ImagesAllowedForUrls
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 11
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ช่วยให้คุณกำหนดรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุไซต์ที่ได้รับอนุญาตให้แสดงภาพ
ค่าตัวอย่าง:
Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\ImagesAllowedForUrls\1 = "http://www.example.com" Software\Policies\Google\Chrome\ImagesAllowedForUrls\2 = "[*.]example.edu"
Linux:
["http://www.example.com", "[*.]example.edu"]
Mac:
<array> <string>http://www.example.com</string> <string>[*.]example.edu</string> </array>
กลับไปด้านบน

ImagesBlockedForUrls

ปิดกั้นภาพบนไซต์เหล่านี้
ประเภทข้อมูล:
List of strings
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\ImagesBlockedForUrls
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
ImagesBlockedForUrls
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 11
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ช่วยให้คุณกำหนดรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุไซต์ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้แสดงภาพ
ค่าตัวอย่าง:
Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\ImagesBlockedForUrls\1 = "http://www.example.com" Software\Policies\Google\Chrome\ImagesBlockedForUrls\2 = "[*.]example.edu"
Linux:
["http://www.example.com", "[*.]example.edu"]
Mac:
<array> <string>http://www.example.com</string> <string>[*.]example.edu</string> </array>
กลับไปด้านบน

JavaScriptAllowedForUrls

อนุญาตให้ใช้ JavaScript บนไซต์เหล่านี้
ประเภทข้อมูล:
List of strings
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\JavaScriptAllowedForUrls
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
JavaScriptAllowedForUrls
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 11
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ช่วยให้คุณกำหนดรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุไซต์ที่ได้รับอนุญาตให้เรียกใช้ JavaScript
ค่าตัวอย่าง:
Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\JavaScriptAllowedForUrls\1 = "http://www.example.com" Software\Policies\Google\Chrome\JavaScriptAllowedForUrls\2 = "[*.]example.edu"
Linux:
["http://www.example.com", "[*.]example.edu"]
Mac:
<array> <string>http://www.example.com</string> <string>[*.]example.edu</string> </array>
กลับไปด้านบน

JavaScriptBlockedForUrls

ปิดกั้น JavaScript บนไซต์เหล่านี้
ประเภทข้อมูล:
List of strings
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\JavaScriptBlockedForUrls
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
JavaScriptBlockedForUrls
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 11
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ช่วยให้คุณกำหนดรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุไซต์ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เรียกใช้ JavaScript
ค่าตัวอย่าง:
Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\JavaScriptBlockedForUrls\1 = "http://www.example.com" Software\Policies\Google\Chrome\JavaScriptBlockedForUrls\2 = "[*.]example.edu"
Linux:
["http://www.example.com", "[*.]example.edu"]
Mac:
<array> <string>http://www.example.com</string> <string>[*.]example.edu</string> </array>
กลับไปด้านบน

PluginsAllowedForUrls

อนุญาตให้ใช้ปลั๊กอินบนไซต์เหล่านี้
ประเภทข้อมูล:
List of strings
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\PluginsAllowedForUrls
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
PluginsAllowedForUrls
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 11
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ช่วยให้คุณกำหนดรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุไซต์ที่ได้รับอนุญาตให้เรียกใช้ปลั๊กอิน
ค่าตัวอย่าง:
Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\PluginsAllowedForUrls\1 = "http://www.example.com" Software\Policies\Google\Chrome\PluginsAllowedForUrls\2 = "[*.]example.edu"
Linux:
["http://www.example.com", "[*.]example.edu"]
Mac:
<array> <string>http://www.example.com</string> <string>[*.]example.edu</string> </array>
กลับไปด้านบน

PluginsBlockedForUrls

ปิดกั้นปลั๊กอินบนไซต์เหล่านี้
ประเภทข้อมูล:
List of strings
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\PluginsBlockedForUrls
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
PluginsBlockedForUrls
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 11
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ช่วยให้คุณกำหนดรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุไซต์ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เรียกใช้ปลั๊กอิน
ค่าตัวอย่าง:
Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\PluginsBlockedForUrls\1 = "http://www.example.com" Software\Policies\Google\Chrome\PluginsBlockedForUrls\2 = "[*.]example.edu"
Linux:
["http://www.example.com", "[*.]example.edu"]
Mac:
<array> <string>http://www.example.com</string> <string>[*.]example.edu</string> </array>
กลับไปด้านบน

PopupsAllowedForUrls

อนุญาตให้แสดงป๊อปอัปบนไซต์เหล่านี้
ประเภทข้อมูล:
List of strings
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\PopupsAllowedForUrls
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
PopupsAllowedForUrls
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 11
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ช่วยให้คุณกำหนดรายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุไซต์ที่ได้รับอนุญาตให้เปิดป๊อปอัป
ค่าตัวอย่าง:
Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\PopupsAllowedForUrls\1 = "http://www.example.com" Software\Policies\Google\Chrome\PopupsAllowedForUrls\2 = "[*.]example.edu"
Linux:
["http://www.example.com", "[*.]example.edu"]
Mac:
<array> <string>http://www.example.com</string> <string>[*.]example.edu</string> </array>
กลับไปด้านบน

PopupsBlockedForUrls

ปิดกั้นป๊อปอัปบนไซต์เหล่านี้
ประเภทข้อมูล:
List of strings
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\PopupsBlockedForUrls
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
PopupsBlockedForUrls
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 11
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ช่วยให้คุณตั้งค่ารายการรูปแบบ URL ซึ่งระบุไซต์ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดป๊อปอัป
ค่าตัวอย่าง:
Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\PopupsBlockedForUrls\1 = "http://www.example.com" Software\Policies\Google\Chrome\PopupsBlockedForUrls\2 = "[*.]example.edu"
Linux:
["http://www.example.com", "[*.]example.edu"]
Mac:
<array> <string>http://www.example.com</string> <string>[*.]example.edu</string> </array>
กลับไปด้านบน

ตัวจัดการรหัสผ่าน

กำหนดค่าตัวจัดการรหัสผ่าน หากตัวจัดการรหัสผ่านถูกเปิดใช้งานไว้ คุณสามารถเลือกที่จะเปิดหรือปิดใช้งานว่าจะให้ผู้ใช้แสดงรหัสผ่านที่เก็บไว้เป็นข้อความที่ชัดเจนหรือไม่
กลับไปด้านบน

PasswordManagerEnabled

เปิดใช้งานตัวจัดการรหัสผ่าน
ประเภทข้อมูล:
Boolean (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\PasswordManagerEnabled
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
PasswordManagerEnabled
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
เปิดใช้งานการบันทึกรหัสผ่านและการใช้รหัสผ่านที่บันทึกใน Google Chrome หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะสามารถกำหนดให้ Google Chrome จำรหัสผ่านและระบุรหัสผ่านให้โดยอัตโนมัติในครั้งต่อไปที่ผู้ใช้เข้าสู่ไซต์ หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถบันทึกรหัสผ่านหรือใช้รหัสผ่านที่บันทึกไว้แล้ว หากคุณเปิดหรือปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนหรือแทนที่การตั้งค่านี้ใน Google Chrome
ค่าตัวอย่าง:
0x00000001 (Windows), true (Linux), <true /> (Mac)
กลับไปด้านบน

PasswordManagerAllowShowPasswords

อนุญาตให้ผู้ใช้แสดงรหัสผ่านในตัวจัดการรหัสผ่าน
ประเภทข้อมูล:
Boolean (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\PasswordManagerAllowShowPasswords
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
PasswordManagerAllowShowPasswords
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ควบคุมว่าจะให้ผู้ใช้แสดงรหัสผ่านเป็นข้อความที่ชัดเจนในตัวจัดการรหัสผ่านหรือไม่ หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ตัวจัดการรหัสผ่านจะไม่อนุญาตให้แสดงรหัสผ่านที่จัดเก็บไว้เป็นข้อความที่ชัดเจนในหน้าต่างตัวจัดการรหัสผ่าน หากคุณเปิดใช้งานหรือไม่ได้กำหนดค่าการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะสามารถดูรหัสผ่านของตนเป็นข้อความที่ชัดเจนในตัวจัดการรหัสผ่าน
ค่าตัวอย่าง:
0x00000000 (Windows), false (Linux), <false /> (Mac)
กลับไปด้านบน

นโยบายในการตรวจสอบสิทธิ์ HTTP

นโยบายที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบสิทธิ์ HTTP ในตัว
กลับไปด้านบน

AuthSchemes

สกีมการตรวจสอบสิทธิ์ที่ได้รับการสนับสนุน
ประเภทข้อมูล:
String (REG_SZ)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\AuthSchemes
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
AuthSchemes
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 9
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ไม่มี
คำอธิบาย:
ระบุว่าสกีมการตรวจสอบสิทธิ์ HTTP ใดที่จะได้รับการสนับสนุนโดย Google Chrome ค่าที่เป็นไปได้คือ "basic", "digest", "ntlm" และ "negotiate" แยกค่าต่างๆ โดยคั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค
ค่าตัวอย่าง:
"basic,digest,ntlm,negotiate"
กลับไปด้านบน

DisableAuthNegotiateCnameLookup

ปิดใช้งานการค้นหา CNAME เมื่อมีการเจรจาตรวจสอบสิทธิ์ Kerberos
ประเภทข้อมูล:
Boolean (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\DisableAuthNegotiateCnameLookup
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
DisableAuthNegotiateCnameLookup
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 9
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ไม่มี
คำอธิบาย:
ระบุว่า Kerberos SPN ที่สร้างขึ้นอ้างอิงจากชื่อ DNS แคนอนิคอลหรือชื่อเดิมที่ป้อน หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ การค้นหา CNAME จะถูกข้ามไป และชื่อเซิร์ฟเวอร์เป็นชื่อที่ป้อน หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ชื่อแคนอนิคอลของเซิร์ฟเวอร์จะถูกกำหนดผ่านการค้นหา CNAME
ค่าตัวอย่าง:
0x00000000 (Windows), false (Linux), <false /> (Mac)
กลับไปด้านบน

EnableAuthNegotiatePort

รวมพอร์ตที่ไม่ใช่แบบมาตรฐานใน Kerberos SPN
ประเภทข้อมูล:
Boolean (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\EnableAuthNegotiatePort
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
EnableAuthNegotiatePort
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 9
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ไม่มี
คำอธิบาย:
ระบุว่าจะให้ Kerberos SPN ที่สร้างขึ้นรวมพอร์ตที่ไม่ใช่แบบมาตรฐานไว้หรือไม่ หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้และป้อนพอร์ตที่ไม่ใช่แบบมาตรฐาน (เช่น พอร์ตอื่นๆ นอกจาก 80 หรือ 443) ลงไป พอร์ตดังกล่าวจะถูกรวมไว้ใน Kerberos SPN ที่สร้างขึ้น หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ Kerberos SPN ที่สร้างขึ้นจะไม่รวมพอร์ตไม่ว่าในกรณีใด ๆ
ค่าตัวอย่าง:
0x00000000 (Windows), false (Linux), <false /> (Mac)
กลับไปด้านบน

AuthServerWhitelist

รายการที่อนุญาตสำหรับเซิร์ฟเวอร์การตรวจสอบสิทธิ์
ประเภทข้อมูล:
String (REG_SZ)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\AuthServerWhitelist
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
AuthServerWhitelist
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 9
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ไม่มี
คำอธิบาย:
ระบุว่าเซิร์ฟเวอร์ใดที่ควรอยู่ในรายการที่อนุญาตสำหรับการตรวจสอบสิทธิ์ในตัว การตรวจสอบสิทธิ์ในตัวจะเปิดใช้งานเฉพาะกรณีที่ Google Chrome ถูกขอตรวจสอบสิทธิ์จากพร็อกซีหรือจากเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ในรายการที่ได้รับอนุญาตนี้ แยกชื่อเซิร์ฟเวอร์หลายชื่อโดยคั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค อนุญาตให้ใช้สัญลักษณ์แทน (*) ได้
ค่าตัวอย่าง:
"*example.com,foobar.com,*baz"
กลับไปด้านบน

AuthNegotiateDelegateWhitelist

รายการที่อนุญาตสำหรับเซิร์ฟเวอร์การมอบสิทธิ์ของ Kerberos
ประเภทข้อมูล:
String (REG_SZ)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\AuthNegotiateDelegateWhitelist
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
AuthNegotiateDelegateWhitelist
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 9
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ไม่มี
คำอธิบาย:
เซิร์ฟเวอร์ที่ Google Chrome อาจมอบสิทธิ์ให้
ค่าตัวอย่าง:
"foobar.example.com"
กลับไปด้านบน

GSSAPILibraryName

ชื่อไลบรารี GSSAPI
ประเภทข้อมูล:
String (REG_SZ)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\GSSAPILibraryName
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
GSSAPILibraryName
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux) ตั้งแต่รุ่น 9
  • Google Chrome (Mac) ตั้งแต่รุ่น 9
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ไม่มี
คำอธิบาย:
ระบุไลบรารี GSSAPI ที่จะใช้สำหรับการตรวจสอบสิทธิ์ HTTP คุณสามารถตั้งค่าเฉพาะชื่อไลบรารีหรือเส้นทางแบบเต็ม หากไม่มีการตั้งค่าใด Google Chrome จะกลับไปใช้ชื่อไลบรารีเริ่มต้น
ค่าตัวอย่าง:
"libgssapi_krb5.so.2"
กลับไปด้านบน

AllowCrossOriginAuthPrompt

ข้อความแจ้งการตรวจสอบสิทธิ์พื้นฐาน HTTP ข้ามจุด
ประเภทข้อมูล:
Boolean (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\AllowCrossOriginAuthPrompt
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
AllowCrossOriginAuthPrompt
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 13
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ควบคุมว่าเนื้อหาย่อยของบุคคลที่สามบนหน้าเว็บได้รับอนุญาตให้แสดงป๊อปอัปช่องโต้ตอบการตรวจสอบสิทธิ์พื้นฐาน HTTP หรือไม่ ซึ่งโดยปกติจะถูกปิดใช้งานเพื่อป้องกันฟิชชิง
ค่าตัวอย่าง:
0x00000000 (Windows), false (Linux), <false /> (Mac)
กลับไปด้านบน

ผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น

กำหนดค่าผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น คุณสามารถระบุผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้นที่ผู้ใช้จะใช้หรือเลือกปิดใช้งานการค้นหาเริ่มต้น
กลับไปด้านบน

DefaultSearchProviderEnabled

เปิดใช้งานผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น
ประเภทข้อมูล:
Boolean (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\DefaultSearchProviderEnabled
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
DefaultSearchProviderEnabled
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
เปิดใช้งานการใช้ผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ การค้นหาเริ่มต้นจะดำเนินการเมื่อผู้ใช้พิมพ์ข้อความที่ไม่ใช่ URL ในแถบอเนกประสงค์ คุณสามารถระบุผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้นที่จะใช้โดยการตั้งค่านโยบายการค้นหาเริ่มต้นส่วนที่เหลือ หากเว้นว่างไว้ ผู้ใช้สามารถเลือกผู้ให้บริการเริ่มต้นได้ หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ การค้นหาจะดำเนินการไม่ได้เมื่อผู้ใช้ป้อนข้อความที่ไม่ใช่ URL ในแถบอเนกประสงค์ หากคุณเปิดหรือปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนหรือแทนที่การตั้งค่านี้ใน Google Chrome
ค่าตัวอย่าง:
0x00000001 (Windows), true (Linux), <true /> (Mac)
กลับไปด้านบน

DefaultSearchProviderName

ชื่อผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น
ประเภทข้อมูล:
String (REG_SZ)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\DefaultSearchProviderName
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
DefaultSearchProviderName
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ระบุชื่อผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น หากเว้นว่างไว้ ชื่อโฮสต์ที่ระบุไว้ตาม URL การค้นหาจะถูกนำมาใช้
ค่าตัวอย่าง:
"My Intranet Search"
กลับไปด้านบน

DefaultSearchProviderKeyword

คำหลักของผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น
ประเภทข้อมูล:
String (REG_SZ)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\DefaultSearchProviderKeyword
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
DefaultSearchProviderKeyword
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ระบุคำหลักซึ่งเป็นทางลัดที่ใช้ในแถบอเนกประสงค์เพื่อกระตุ้นการค้นหาของผู้ให้บริการรายนี้ ระบุหรือไม่ก็ได้
ค่าตัวอย่าง:
"mis"
กลับไปด้านบน

DefaultSearchProviderSearchURL

URL การค้นหาของผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น
ประเภทข้อมูล:
String (REG_SZ)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\DefaultSearchProviderSearchURL
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
DefaultSearchProviderSearchURL
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ระบุ URL ของเครื่องมือค้นหาที่จะใช้เมื่อทำการค้นหาเริ่มต้น URL ควรมีสตริง "{searchTerms}" ซึ่งจะถูกแทนที่ด้วยข้อความค้นหาที่ผู้ใช้กำลังค้นหา
ค่าตัวอย่าง:
"http://search.my.company/search?q={searchTerms}"
กลับไปด้านบน

DefaultSearchProviderSuggestURL

URL ที่แนะนำโดยผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น
ประเภทข้อมูล:
String (REG_SZ)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\DefaultSearchProviderSuggestURL
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
DefaultSearchProviderSuggestURL
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ระบุ URL ของเครื่องมือค้นหาที่ใช้แสดงคำแนะนำในการค้นหา URL ควรมีสตริง "{searchTerms}" ซึ่งจะถูกแทนที่ด้วยข้อความที่ผู้ใช้เคยป้อนในขณะค้นหา ระบุหรือไม่ก็ได้
ค่าตัวอย่าง:
"http://search.my.company/suggest?q={searchTerms}"
กลับไปด้านบน

DefaultSearchProviderInstantURL

URL ค้นหาทันใจของผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น
ประเภทข้อมูล:
String (REG_SZ)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\DefaultSearchProviderInstantURL
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
DefaultSearchProviderInstantURL
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 10
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ระบุ URL ของเครื่องมือค้นหาที่ใช้นำเสนอผลลัพธ์ทันใจ URL ควรมีสตริง '{searchTerms}' ซึ่งจะถูกแทนที่ด้วยข้อความที่ผู้ใช้เคยป้อนไว้ในขณะค้นหา ระบุหรือไม่ก็ได้
ค่าตัวอย่าง:
"http://search.my.company/suggest?q={searchTerms}"
กลับไปด้านบน

DefaultSearchProviderIconURL

ไอคอนของผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น
ประเภทข้อมูล:
String (REG_SZ)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\DefaultSearchProviderIconURL
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
DefaultSearchProviderIconURL
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ระบุ URL ไอคอนโปรดของของผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น ระบุหรือไม่ก็ได้
ค่าตัวอย่าง:
"http://search.my.company/favicon.ico"
กลับไปด้านบน

DefaultSearchProviderEncodings

การเข้ารหัสของผู้ให้บริการการค้นหาเริ่มต้น
ประเภทข้อมูล:
List of strings
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\DefaultSearchProviderEncodings
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
DefaultSearchProviderEncodings
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ระบุการเข้ารหัสอักขระที่ผู้ให้บริการการค้นหาสนับสนุน การเข้ารหัสเป็นชื่อหน้าของรหัสเช่น UTF - 8, GB2312, และ ISO - 8859 - 1 การเข้ารหัสเหล่านี้จะถูกลองใช้ตามลำดับที่ระบุ ค่าเริ่มต้นจะเป็น UTF - 8
ค่าตัวอย่าง:
Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\DefaultSearchProviderEncodings\1 = "UTF-8" Software\Policies\Google\Chrome\DefaultSearchProviderEncodings\2 = "UTF-16" Software\Policies\Google\Chrome\DefaultSearchProviderEncodings\3 = "GB2312" Software\Policies\Google\Chrome\DefaultSearchProviderEncodings\4 = "ISO-8859-1"
Linux:
["UTF-8", "UTF-16", "GB2312", "ISO-8859-1"]
Mac:
<array> <string>UTF-8</string> <string>UTF-16</string> <string>GB2312</string> <string>ISO-8859-1</string> </array>
กลับไปด้านบน

พร็อกซีเซิร์ฟเวอร์

ช่วยให้คุณระบุพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้โดย Google Chrome และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่าพร็อกซี หากคุณเลือกไม่ใช้พร็อกซีเซิร์ฟเวอร์และเชื่อมต่อโดยตรงเสมอ ตัวเลือกอื่นๆ ทั้งหมดจะถูกข้ามไป หากคุณเลือกตรวจจับพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์อัตโนมัติ ตัวเลือกอื่นๆ ทั้งหมดจะถูกข้ามไป สำหรับตัวอย่างโดยละเอียด โปรดไปที่: http://www.chromium.org/developers/design-documents/network-settings#TOC-Command-line-options-for-proxy-sett หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ Google Chrome จะข้ามตัวเลือกทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับพร็อกซีที่ระบุจากบรรทัดคำสั่ง
กลับไปด้านบน

ProxyMode

เลือกวิธีระบุการตั้งค่าพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์
ประเภทข้อมูล:
String (REG_SZ)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\ProxyMode
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
ProxyMode
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 10
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ช่วยให้คุณระบุพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้โดย Google Chrome และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่าพร็อกซี หากคุณเลือกไม่ใช้พร็อกซีเซิร์ฟเวอร์และเชื่อมต่อโดยตรงเสมอ ตัวเลือกอื่นๆ ทั้งหมดจะถูกข้ามไป หากคุณเลือกใช้การตั้งค่าพร็อกซีของระบบหรือตรวจจับพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์อัตโนมัติ ตัวเลือกอื่นๆ ทั้งหมดจะถูกข้ามไป หากคุณเลือกโหมดพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์แบบคงที่ คุณสามารถระบุตัวเลือกอื่นๆ ต่อไปได้ใน "ที่อยู่หรือ URL ของพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์" และ "รายการกฎการข้ามพร็อกซีที่คั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค" หากคุณเลือกที่จะใช้สคริปต์พร็อกซี .pac คุณต้องระบุ URL ไปยังสคริปต์ดังกล่าวใน "URL ไปยังไฟล์ .pac ของพร็อกซี" สำหรับตัวอย่างโดยละเอียด โปรดไปที่: http://www.chromium.org/developers/design-documents/network-settings#TOC-Command-line-options-for-proxy-sett หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ Google Chrome จะข้ามตัวเลือกทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับพร็อกซีที่ระบุจากบรรทัดคำสั่ง
  • "direct" = ไม่ใช้พร็อกซี
  • "auto_detect" = ตรวจหาการตั้งค่าพร็อกซีอัตโนมัติ
  • "pac_script" = ใช้สคริปต์พร็อกซี .pac
  • "fixed_servers" = ใช้พร็อกซีเซิร์ฟเวอร์แบบคงที่
  • "system" = ใช้การตั้งค่าพร็อกซีของระบบ
ค่าตัวอย่าง:
"direct"
กลับไปด้านบน

ProxyServerMode (ถูกกำหนดให้เลิกใช้)

เลือกวิธีระบุการตั้งค่าพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์
ประเภทข้อมูล:
Integer (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\ProxyServerMode
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
ProxyServerMode
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
นโยบายนี้ถูกกำหนดให้เลิกใช้ โดยจะใช้ ProxyMode แทน ช่วยให้คุณระบุพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้โดย Google Chrome และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่าพร็อกซี หากคุณเลือกไม่ใช้พร็อกซีเซิร์ฟเวอร์และเชื่อมต่อโดยตรงเสมอ ตัวเลือกอื่นๆ ทั้งหมดจะถูกข้ามไป หากคุณเลือกใช้การตั้งค่าพร็อกซีของระบบหรือตรวจจับพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์อัตโนมัติ ตัวเลือกอื่นๆ ทั้งหมดจะถูกข้ามไป หากคุณเลือกการตั้งค่าพร็อกซีด้วยตนเอง คุณสามารถระบุตัวเลือกอื่นๆ ต่อไปใน "ที่อยู่หรือ URL ของพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์" "URL ไปยังไฟล์ .pac ของพร็อกซี" และ "รายการกฎการข้ามพร็อกซีที่คั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค" สำหรับตัวอย่างโดยละเอียด โปรดไปที่: http://www.chromium.org/developers/design-documents/network-settings#TOC-Command-line-options-for-proxy-sett หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ Google Chrome จะข้ามตัวเลือกทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับพร็อกซีที่ระบุจากบรรทัดคำสั่ง
  • 0 = ไม่ใช้พร็อกซี
  • 1 = ตรวจหาการตั้งค่าพร็อกซีอัตโนมัติ
  • 2 = ระบุการตั้งค่าพร็อกซีด้วยตนเอง
  • 3 = ใช้การตั้งค่าพร็อกซีของระบบ
ค่าตัวอย่าง:
0x00000002 (Windows), 2 (Linux/Mac)
กลับไปด้านบน

ProxyServer

ที่อยู่หรือ URL ของพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์
ประเภทข้อมูล:
String (REG_SZ)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\ProxyServer
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
ProxyServer
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
คุณสามารถระบุ URL ของพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ที่นี่ นโยบายนี้จะมีผลเมื่อคุณได้เลือกการตั้งค่าพร็อกซีด้วยตนเองที่ "เลือกวิธีระบุการตั้งค่าพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์" สำหรับตัวเลือกเพิ่มเติมและตัวอย่างโดยละเอียด โปรดไปที่: http://www.chromium.org/developers/design-documents/network-settings#TOC-Command-line-options-for-proxy-sett
ค่าตัวอย่าง:
"123.123.123.123:8080"
กลับไปด้านบน

ProxyPacUrl

URL ไปยังไฟล์ .pac ของพร็อกซี
ประเภทข้อมูล:
String (REG_SZ)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\ProxyPacUrl
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
ProxyPacUrl
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
คุณสามารถระบุ URL ไปยังไฟล์ .pac ของพร็อกซีที่นี่ นโยบายนี้จะมีผลเฉพาะเมื่อคุณได้เลือกการตั้งค่าพร็อกซีด้วยตนเองที่ "เลือกวิธีระบุการตั้งค่าพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์" สำหรับตัวอย่างโดยละเอียด โปรดไปที่: http://www.chromium.org/developers/design-documents/network-settings#TOC-Command-line-options-for-proxy-sett
ค่าตัวอย่าง:
"http://internal.site/example.pac"
กลับไปด้านบน

ProxyBypassList

กฎการข้ามพร็อกซี
ประเภทข้อมูล:
String (REG_SZ)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\ProxyBypassList
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
ProxyBypassList
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
Google Chrome จะข้ามพร็อกซีใด ๆ ของรายการโฮสต์ที่ระบุไว้ที่นี่ นโยบายนี้จะมีผลเฉพาะในกรณีที่คุณเลือกการตั้งค่าพร็อกซีด้วยตนเองที่ "เลือกวิธีระบุการตั้งค่าพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์" สำหรับตัวอย่างโดยละเอียดเพิ่มเติม โปรดไปที่: http://www.chromium.org/developers/design-documents/network-settings#TOC-Command-line-options-for-proxy-sett
ค่าตัวอย่าง:
"http://www.example1.com,http://www.example2.com,http://internalsite/"
กลับไปด้านบน

ส่วนขยาย

กำหนดค่านโยบายที่เกี่ยวข้องกับส่วนขยาย ผู้ใช้ไม่ได้รับอนุญาตให้ติดตั้งส่วนขยายที่อยู่ในรายการที่ไม่อนุญาตนอกจากส่วนขยายนั้นจะถูกนำไปไว้ในรายการที่อนุญาต นอกจากนี้ คุณยังสามารถบังคับให้ Google Chrome ติดตั้งส่วนขยายโดยอัตโนมัติโดยระบุส่วนขยายไว้ใน ExtensionInstallForcelist รายการที่ไม่อนุญาตจะมีผลใช้งานเหนือรายการส่วนขยายที่บังคับให้ติดตั้ง
กลับไปด้านบน

ExtensionInstallBlacklist

กำหนดค่ารายการที่ไม่อนุญาตสำหรับการติดตั้งส่วนขยาย
ประเภทข้อมูล:
List of strings
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\ExtensionInstallBlacklist
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
ExtensionInstallBlacklist
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ช่วยให้คุณระบุได้ว่าส่วนขยายใดที่ผู้ใช้ไม่สามารถติดตั้งได้ ส่วนขยายที่ติดตั้งแล้วจะถูกนำออกหากอยู่ในรายการที่ไม่อนุญาต ค่ารายการที่ไม่อนุญาต * แสดงว่าส่วนขยายทั้งหมดถูกจัดอยู่ในรายการที่ไม่อนุญาตจนกว่าจะมีการนำไปไว้ในรายการที่อนุญาตอย่างชัดเจน
ค่าตัวอย่าง:
Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\ExtensionInstallBlacklist\1 = "extension_id1" Software\Policies\Google\Chrome\ExtensionInstallBlacklist\2 = "extension_id2"
Linux:
["extension_id1", "extension_id2"]
Mac:
<array> <string>extension_id1</string> <string>extension_id2</string> </array>
กลับไปด้านบน

ExtensionInstallWhitelist

กำหนดค่ารายการที่อนุญาตสำหรับการติดตั้งส่วนขยาย
ประเภทข้อมูล:
List of strings
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\ExtensionInstallWhitelist
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
ExtensionInstallWhitelist
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ช่วยให้คุณระบุได้ว่าส่วนขยายใดที่ไม่ขึ้นอยู่กับรายการที่ไม่อนุญาต ค่ารายการที่ไม่อนุญาต * แสดงว่าส่วนขยายทั้งหมดจัดอยู่ในรายการที่ไม่อนุญาต และผู้ใช้สามารถติดตั้งได้เฉพาะส่วนขยายที่อยู่ในรายการที่อนุญาต ตามค่าเริ่มต้น ส่วนขยายทั้งหมดจะอยู่ในรายการที่อนุญาต แต่หากส่วนขยายทั้งหมดถูกจัดอยู่ในรายการที่ไม่อนุญาตตามนโยบาย คุณสามารถใช้รายการที่อนุญาตเพื่อแทนที่นโยบายดังกล่าวได้
ค่าตัวอย่าง:
Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\ExtensionInstallWhitelist\1 = "extension_id1" Software\Policies\Google\Chrome\ExtensionInstallWhitelist\2 = "extension_id2"
Linux:
["extension_id1", "extension_id2"]
Mac:
<array> <string>extension_id1</string> <string>extension_id2</string> </array>
กลับไปด้านบน

ExtensionInstallForcelist

กำหนดค่ารายการส่วนขยายที่บังคับให้ติดตั้ง
ประเภทข้อมูล:
List of strings
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\ExtensionInstallForcelist
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
ExtensionInstallForcelist
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 9
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ช่วยให้คุณระบุรายการส่วนขยายที่จะได้รับการติดตั้งอย่างเงียบๆ โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องดำเนินการ ส่วนขยายแต่ละอย่างจะเป็นสตริงที่ประกอบด้วยรหัสส่วนขยายและ URL การอัปเดตที่คั่นด้วยเครื่องหมายอัฒภาค (;) ตัวอย่างเช่น: lcncmkcnkcdbbanbjakcencbaoegdjlp;https://clients2.google.com/service/update2/crx สำหรับส่วนขยายแต่ละอย่าง Google Chrome จะเรียกส่วนขยายจาก URL ที่ระบุโดยดูจากรหัสและติดตั้งอย่างเงียบๆ หน้าต่อไปนี้จะอธิบายวิธีโฮสต์ส่วนขยายบนเซิร์ฟเวอร์ของคุณเอง เกี่ยวกับ URL การอัปเดต: http://code.google.com/chrome/extensions/autoupdate.html เกี่ยวกับการโฮสต์ส่วนขยายโดยทั่วไป: http://code.google.com/chrome/extensions/hosting.html ผู้ใช้จะไม่สามารถถอนการติดตั้งส่วนขยายที่ระบุโดยนโยบายนี้ หากคุณนำส่วนขยายออกจากรายการ ส่วนขยายจะถูกถอนการติดตั้งโดย Google Chrome โดยอัตโนมัติ ส่วนขยายที่ถูกจัดอยู่ในรายการที่ไม่อนุญาตใน “ExtensionInstallBlacklist” และไม่อยู่ในรายการที่อนุญาตจะไม่สามารถบังคับให้ติดตั้งโดยนโยบายนี้
ค่าตัวอย่าง:
Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\ExtensionInstallForcelist\1 = "lcncmkcnkcdbbanbjakcencbaoegdjlp;https://clients2.google.com/service/update2/crx"
Linux:
["lcncmkcnkcdbbanbjakcencbaoegdjlp;https://clients2.google.com/service/update2/crx"]
Mac:
<array> <string>lcncmkcnkcdbbanbjakcencbaoegdjlp;https://clients2.google.com/service/update2/crx</string> </array>
กลับไปด้านบน

หน้าเริ่มต้นใช้งาน

ช่วยให้คุณกำหนดค่าหน้าเว็บที่จะโหลดเมื่อเริ่มต้นใช้งาน เนื้อหาของรายการ "URL ที่จะเปิดเมื่อเริ่มต้นใช้งาน" จะถูกข้ามไปจนกว่าคุณจะเลือก "เปิดรายการ URL" ใน "การดำเนินการเมื่อเริ่มต้นใช้งาน"
กลับไปด้านบน

RestoreOnStartup

การดำเนินการเมื่อเริ่มต้นใช้งาน
ประเภทข้อมูล:
Integer (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\RestoreOnStartup
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
RestoreOnStartup
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ช่วยให้คุณระบุการทำงานเมื่อเริ่มต้นใช้งานได้ หากคุณเลือก "เปิดหน้าแรก" หน้าแรกจะถูกเปิดขึ้นมาเสมอเมื่อคุณเริ่มต้นใช้งาน Google Chrome หากคุณเลือก "เปิด URL ที่เคยเปิดครั้งล่าสุดอีกครั้ง" URL ที่เคยเปิดไว้ครั้งล่าสุดที่คุณปิด Google Chrome จะถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง หากคุณเลือก "เปิดรายการ URL" รายการ "URL ที่จะเปิดเมื่อเริ่มต้นใช้งาน" จะถูกเปิดขึ้นมาเมื่อผู้ใช้เริ่มต้นใช้งาน Google Chrome หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้ไม่สามารถเปลี่ยนหรือแทนที่การตั้งค่านี้ใน Google Chrome การปิดใช้งานการตั้งค่านี้จะมีค่าเท่ากับการปล่อยไว้โดยไม่กำหนดค่า ผู้ใช้จะยังสามารถเปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้ใน Google Chrome
  • 0 = เปิดหน้าแรก
  • 1 = เปิด URL ที่ถูกเปิดล่าสุดอีกครั้ง
  • 4 = เปิดรายการ URL
ค่าตัวอย่าง:
0x00000004 (Windows), 4 (Linux/Mac)
กลับไปด้านบน

RestoreOnStartupURLs

URL ที่จะเปิดเมื่อเริ่มต้นใช้งาน
ประเภทข้อมูล:
List of strings
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\RestoreOnStartupURLs
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
RestoreOnStartupURLs
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
หากเลือก "เปิดรายการ URL" เป็นการดำเนินการเมื่อเริ่มต้นใช้งาน ตัวเลือกนี้จะช่วยให้คุณระบุรายการ URL ที่จะเปิดได้
ค่าตัวอย่าง:
Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\RestoreOnStartupURLs\1 = "http://example.com" Software\Policies\Google\Chrome\RestoreOnStartupURLs\2 = "http://chromium.org"
Linux:
["http://example.com", "http://chromium.org"]
Mac:
<array> <string>http://example.com</string> <string>http://chromium.org</string> </array>
กลับไปด้านบน

หน้าแรก

กำหนดค่าหน้าแรกเริ่มต้นใน Google Chrome และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนหน้าดังกล่าว การตั้งค่าหน้าแรกของผู้ใช้จะถูกล็อกโดยสมบูรณ์ หากคุณเลือกหน้าแรกเป็นหน้าแท็บใหม่ หรือตั้งค่าให้เป็น URL และระบุ URL ของหน้าแรก หากคุณไม่ได้ระบุ URL ของหน้าแรก ผู้ใช้จะยังสามารถตั้งค่าหน้าแรกเป็นหน้าแท็บใหม่โดยระบุ "chrome://newtab"
กลับไปด้านบน

HomepageLocation

กำหนดค่า URL ของหน้าแรก
ประเภทข้อมูล:
String (REG_SZ)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\HomepageLocation
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
HomepageLocation
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
กำหนดค่า URL ของหน้าแรกเริ่มต้นใน Google Chrome และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนหน้าดังกล่าว คุณสามารถตั้งค่าชนิดของหน้าแรกเป็น URL ที่คุณระบุที่นี่ หรือตั้งค่าเป็นหน้าแท็บใหม่ หากคุณเลือกหน้าแท็บใหม่ นโยบายนี้จะถูกข้ามไป หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยน URL หน้าแรกของตนได้ใน Google Chrome แต่ยังสามารถเลือกหน้าแท็บใหม่เป็นหน้าแรกได้
ค่าตัวอย่าง:
"http://chromium.org"
กลับไปด้านบน

HomepageIsNewTabPage

ใช้หน้าแท็บใหม่เป็นหน้าแรก
ประเภทข้อมูล:
Boolean (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\HomepageIsNewTabPage
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
HomepageIsNewTabPage
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
กำหนดค่าประเภทของหน้าแรกเริ่มต้นใน Google Chrome และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนค่ากำหนดหน้าแรก หน้าแรกสามารถตั้งค่าเป็น URL ที่คุณระบุหรือตั้งค่าเป็นหน้าแท็บใหม่ก็ได้ หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ หน้าแท็บใหม่จะถูกใช้เป็นหน้าแรกเสมอ และตำแหน่ง URL ของหน้าแรกจะถูกข้ามไป หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ หน้าแรกของผู้ใช้จะไม่ใช่หน้าแท็บใหม่จนกว่าจะตั้งค่า URL เป็น "chrome://newtab" หากคุณเปิดหรือปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนประเภทหน้าแรกของพวกเขาใน Google Chrome
ค่าตัวอย่าง:
0x00000001 (Windows), true (Linux), <true /> (Mac)
กลับไปด้านบน

อนุญาตให้ Google Chrome Frame จัดการประเภทเนื้อหาดังต่อไปนี้

อนุญาตให้ Google Chrome Frame จัดการประเภทเนื้อหาดังต่อไปนี้
กลับไปด้านบน

ChromeFrameContentTypes

อนุญาตให้ Google Chrome Frame จัดการประเภทเนื้อหาดังต่อไปนี้
ประเภทข้อมูล:
List of strings
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\ChromeFrameContentTypes
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
ChromeFrameContentTypes
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome Frame (Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ไม่มี
คำอธิบาย:
อนุญาตให้ Google Chrome Frame จัดการประเภทเนื้อหาดังต่อไปนี้
ค่าตัวอย่าง:
Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\ChromeFrameContentTypes\1 = "text/xml" Software\Policies\Google\Chrome\ChromeFrameContentTypes\2 = "application/xml"
Linux:
["text/xml", "application/xml"]
Mac:
<array> <string>text/xml</string> <string>application/xml</string> </array>
กลับไปด้านบน

โปรแกรมแสดง HTML เริ่มต้นสำหรับ Google Chrome Frame

ช่วยให้คุณกำหนดค่าโปรแกรมแสดง HTML เริ่มต้นเมื่อติดตั้ง Google Chrome Frame การตั้งค่าเริ่มต้นจะอนุญาตให้เบราว์เซอร์โฮสต์แสดงผล แต่คุณเลือกแทนที่การตั้งค่านี้ได้และให้ Google Chrome Frame แสดงผลหน้า HTML โดยค่าเริ่มต้น
กลับไปด้านบน

ChromeFrameRendererSettings

โปรแกรมแสดง HTML เริ่มต้นสำหรับ Google Chrome Frame
ประเภทข้อมูล:
Integer (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\ChromeFrameRendererSettings
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
ChromeFrameRendererSettings
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome Frame (Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ไม่มี
คำอธิบาย:
ช่วยให้คุณกำหนดค่าโปรแกรมแสดง HTML เริ่มต้นเมื่อติดตั้ง Google Chrome Frame การตั้งค่าเริ่มต้นจะอนุญาตให้เบราว์เซอร์โฮสต์แสดงผล แต่คุณเลือกแทนที่การตั้งค่านี้ได้และให้ Google Chrome Frame แสดงผลหน้า HTML โดยค่าเริ่มต้น
  • 0 = ใช้เบราว์เซอร์โฮสต์โดยค่าเริ่มต้น
  • 1 = ใช้ Google Chrome Frame โดยค่าเริ่มต้น
ค่าตัวอย่าง:
0x00000001 (Windows), 1 (Linux/Mac)
กลับไปด้านบน

RenderInChromeFrameList

แสดงรูปแบบ URL ต่อไปนี้ใน Google Chrome Frame
ประเภทข้อมูล:
List of strings
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\RenderInChromeFrameList
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
RenderInChromeFrameList
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome Frame (Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ไม่มี
คำอธิบาย:
กำหนดค่ารายการรูปแบบ URL ที่ควรแสดงโดย Google Chrome Frame สำหรับตัวอย่างรูปแบบ โปรดดูที่ http://www.chromium.org/developers/how-tos/chrome-frame-getting-started
ค่าตัวอย่าง:
Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\RenderInChromeFrameList\1 = "http://www.example.com" Software\Policies\Google\Chrome\RenderInChromeFrameList\2 = "http://www.example.edu"
Linux:
["http://www.example.com", "http://www.example.edu"]
Mac:
<array> <string>http://www.example.com</string> <string>http://www.example.edu</string> </array>
กลับไปด้านบน

RenderInHostList

แสดงรูปแบบ URL ต่อไปนี้เสมอในเบราว์เซอร์โฮสต์
ประเภทข้อมูล:
List of strings
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\RenderInHostList
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
RenderInHostList
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome Frame (Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ไม่มี
คำอธิบาย:
กำหนดค่ารายการรูปแบบ URL ที่ควรแสดงโดยเบราว์เซอร์โฮสต์ สำหรับรูปแบบตัวอย่าง โปรดดูที่ http://www.chromium.org/developers/how-tos/chrome-frame-getting-started
ค่าตัวอย่าง:
Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\RenderInHostList\1 = "http://www.example.com" Software\Policies\Google\Chrome\RenderInHostList\2 = "http://www.example.edu"
Linux:
["http://www.example.com", "http://www.example.edu"]
Mac:
<array> <string>http://www.example.com</string> <string>http://www.example.edu</string> </array>
กลับไปด้านบน

AllowFileSelectionDialogs

อนุญาตให้เรียกดูช่องโต้ตอบสำหรับการเลือกไฟล์ได้
ประเภทข้อมูล:
Boolean (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\AllowFileSelectionDialogs
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
AllowFileSelectionDialogs
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 12
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
อนุญาตให้เข้าถึงไฟล์ในเครื่องโดยการอนุญาตให้ Google Chrome แสดงช่องโต้ตอบสำหรับการเลือกไฟล์ หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะเปิดช่องโต้ตอบสำหรับการเลือกไฟล์ได้ตามปกติ หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ เมื่อใดก็ตามที่ผู้ใช้ดำเนินการที่อาจกระตุ้นให้ช่องโต้ตอบสำหรับการเลือกไฟล์ปรากฏขึ้น (เช่น การนำเข้าบุ๊กมาร์ก การอัปโหลดไฟล์ การบันทึกลิงก์ ฯลฯ) ข้อความจะปรากฏขึ้นแทนโดยถือว่าผู้ใช้ได้คลิก ยกเลิก ในช่องโต้ตอบสำหรับการเลือกไฟล์ไว้ หากไม่ได้ตั้งค่านี้ ผู้ใช้สามารถเปิดช่องโต้ตอบสำหรับการเลือกไฟล์ได้ตามปกติ
ค่าตัวอย่าง:
0x00000001 (Windows), true (Linux), <true /> (Mac)
กลับไปด้านบน

AllowOutdatedPlugins

อนุญาตให้เรียกใช้ปลั๊กอินที่เก่าแล้ว
ประเภทข้อมูล:
Boolean (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\AllowOutdatedPlugins
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
AllowOutdatedPlugins
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 12
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
อนุญาตให้ Google Chrome เรียกใช้ปลั๊กอินที่เก่าแล้ว หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ปลั๊กอินเก่าจะถูกนำมาใช้เป็นปลั๊กอินปกติ หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ปลั๊กอินเก่าจะไม่ถูกใช้ และระบบจะไม่สอบถามสิทธิ์ในการเรียกใช้ปลั๊กอินเก่าจากผู้ใช้ หากคุณไม่ได้กำหนดการตั้งค่านี้ ระบบจะสอบถามสิทธิ์ในการเรียกใช้ปลั๊กอินเก่าจากผู้ใช้
ค่าตัวอย่าง:
0x00000001 (Windows), true (Linux), <true /> (Mac)
กลับไปด้านบน

AlternateErrorPagesEnabled

เปิดใช้งานหน้าเว็บแสดงข้อผิดพลาดสำรอง
ประเภทข้อมูล:
Boolean (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\AlternateErrorPagesEnabled
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
AlternateErrorPagesEnabled
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ช่วยให้สามารถใช้หน้าแสดงข้อผิดพลาดสำรองที่ถูกสร้างขึ้นใน Google Chrome (เช่น "ไม่พบหน้าเว็บ") และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ หน้าแสดงข้อผิดพลาดสำรองจะถูกนำมาใช้ หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ หน้าแสดงข้อผิดพลาดสำรองจะไม่ถูกนำมาใช้ หากคุณเปิดหรือปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนหรือแทนที่การตั้งค่านี้ใน Google Chrome
ค่าตัวอย่าง:
0x00000001 (Windows), true (Linux), <true /> (Mac)
กลับไปด้านบน

AlwaysAuthorizePlugins

เรียกใช้ปลั๊กอินที่ต้องมีการให้สิทธิ์เสมอ
ประเภทข้อมูล:
Boolean (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\AlwaysAuthorizePlugins
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
AlwaysAuthorizePlugins
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 13
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.13
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
อนุญาตให้ Google Chrome เรียกใช้ปลั๊กอินที่ต้องมีการให้สิทธิ์ หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ปลั๊กอินที่ยังไม่เก่าจะทำงานเสมอ หากการตั้งค่านี้ถูกปิดใช้งานหรือไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะขออนุญาตจากผู้ใช้เพื่อเรียกใช้ปลั๊กอินที่ต้องมีการให้สิทธิ์ ปลั๊กอินเหล่านี้อาจทำให้ระบบผ่อนปรนเรื่องความปลอดภัยลง
ค่าตัวอย่าง:
0x00000001 (Windows), true (Linux), <true /> (Mac)
กลับไปด้านบน

ApplicationLocaleValue

ภาษาของแอปพลิเคชัน
ประเภทข้อมูล:
String (REG_SZ)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\ApplicationLocaleValue
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
ApplicationLocaleValue
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ไม่มี
คำอธิบาย:
กำหนดค่าภาษาแอปพลิเคชันใน Google Chrome และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนภาษาดังกล่าว หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ Google Chrome จะใช้ภาษาที่ระบุ หากภาษาที่กำหนดค่าไว้ไม่ได้รับการสนับสนุน "en - US" จะถูกนำมาใช้แทน หากคุณปิดใช้งานหรือไม่ได้กำหนดค่าการตั้งค่านี้ Google Chrome อาจใช้ภาษาที่ต้องการตามที่ผู้ใช้ระบุ (หากกำหนดค่าไว้) ภาษาของระบบ หรือภาษาทางเลือก "en - US"
ค่าตัวอย่าง:
"en"
กลับไปด้านบน

AutoFillEnabled

เปิดใช้งานการป้อนอัตโนมัติ
ประเภทข้อมูล:
Boolean (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\AutoFillEnabled
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
AutoFillEnabled
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
เปิดใช้งานคุณลักษณะป้อนอัตโนมัติของ Google Chrome และช่วยให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลเว็บฟอร์มอัตโนมัติโดยใช้ข้อมูลที่เก็บไว้ก่อนหน้านี้ เช่น ที่อยู่หรือข้อมูลบัตรเครดิต หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะใช้งานการป้อนอัตโนมัติไม่ได้ หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้หรือไม่ได้กำหนดค่า การป้อนอัตโนมัติจะอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้ใช้ ซึ่งจะช่วยให้พวกเขากำหนดค่าโปรไฟล์ป้อนอัตโนมัติและปิดหรือเปิดการป้อนอัตโนมัติได้ตามที่ผู้ใช้เห็นสมควร
ค่าตัวอย่าง:
0x00000000 (Windows), false (Linux), <false /> (Mac)
กลับไปด้านบน

BlockThirdPartyCookies

ปิดกั้นคุกกี้ของบุคคลที่สาม
ประเภทข้อมูล:
Boolean (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\BlockThirdPartyCookies
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
BlockThirdPartyCookies
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 10
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ปิดกั้นคุกกี้ของบุคคลที่สาม การเปิดใช้งานการตั้งค่านี้จะป้องกันการตั้งค่าคุ้กกี้โดยองค์ประกอบของหน้าเว็บที่ไม่ได้มาจากโดเมนในแถบที่อยู่ของเบราว์เซอร์ การปิดใช้งานการตั้งค่านี้จะทำให้การตั้งค่าคุ้กกี้โดยองค์ประกอบของหน้าเว็บที่ไม่ได้มาจากโดเมนในแถบที่อยู่ของเบราว์เซอร์สามารถกระทำได้ และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้
ค่าตัวอย่าง:
0x00000000 (Windows), false (Linux), <false /> (Mac)
กลับไปด้านบน

BookmarkBarEnabled

เปิดใช้งานแถบบุ๊กมาร์ก
ประเภทข้อมูล:
Boolean (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\BookmarkBarEnabled
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
BookmarkBarEnabled
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 12
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.12
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
เปิดใช้งานแถบบุ๊กมาร์กบนหน้าแท็บใหม่ใน Google Chrome หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ Google Chrome จะแสดงแถบบุ๊กมาร์กในหน้า "แท็บใหม่" หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่เห็นแถบบุ๊กมาร์ก หากคุณเปิดหรือปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนหรือแทนที่การตั้งค่านี้ใน Google Chrome
ค่าตัวอย่าง:
0x00000001 (Windows), true (Linux), <true /> (Mac)
กลับไปด้านบน

ChromeOsLockOnIdleSuspend

เปิดใช้งานการล็อกเมื่อไม่ได้ใช้งานหรือระงับใช้อุปกรณ์ Chrome OS ชั่วคราว
ประเภทข้อมูล:
Boolean (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\ChromeOsLockOnIdleSuspend
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
ChromeOsLockOnIdleSuspend
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.9
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
เปิดใช้งานการล็อกเมื่อไม่ได้ใช้งานหรือระงับใช้งานอุปกรณ์ Chrome OS ชั่วคราว หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ระบบจะถามรหัสผ่านจากผู้ใช้เพื่อปลดล็อกอุปกรณ์ Chrome OS จากโหมดสลีป หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ระบบจะไม่ถามรหัสผ่านจากผู้ใช้เพื่อปลุกอุปกรณ์ Chrome OS จากโหมดสลีป หากคุณเปิดหรือปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนหรือแทนที่การตั้งค่านี้ใน Google Chrome OS
ค่าตัวอย่าง:
0x00000001 (Windows), true (Linux), <true /> (Mac)
กลับไปด้านบน

ClearSiteDataOnExit

ล้างข้อมูลไซต์เมื่อปิดเบราว์เซอร์
ประเภทข้อมูล:
Boolean (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\ClearSiteDataOnExit
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
ClearSiteDataOnExit
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 11
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 1.0
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
นโยบายนี้จะแทนที่ตัวเลือกการตั้งค่าเนื้อหา "ล้างคุกกี้และข้อมูลไซต์อื่นๆ เมื่อฉันปิดเบราว์เซอร์ของฉัน" เมื่อกำหนดค่าเป็นจริง Google Chrome จะลบข้อมูลทั้งหมดที่เก็บไว้ในเครื่องออกจากเบราว์เซอร์เมื่อปิดเบราว์เซอร์
ค่าตัวอย่าง:
0x00000001 (Windows), true (Linux), <true /> (Mac)
กลับไปด้านบน

DefaultBrowserSettingEnabled

ตั้งค่า Chrome เป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้น
ประเภทข้อมูล:
Boolean (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\DefaultBrowserSettingEnabled
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
DefaultBrowserSettingEnabled
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
กำหนดค่าการตรวจสอบเบราว์เซอร์เริ่มต้นใน Google Chrome และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตรวจสอบดังกล่าว หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ Google Chrome จะตรวจสอบทุกครั้งที่เริ่มต้นใช้งานว่าตนเองเป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้นหรือไม่ และจะลงทะเบียนตนเองโดยอัตโนมัติหากทำได้ หากการตั้งค่านี้ถูกปิดใช้งาน Google Chrome จะไม่ตรวจสอบว่าตนเองเป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้นหรือไม่ และจะปิดใช้งานการควบคุมโดยผู้ใช้สำหรับการตั้งค่าตัวเลือกนี้ หากไม่มีการกำหนดการตั้งค่านี้ Google Chrome จะอนุญาตให้ผู้ใช้ควบคุมได้ว่าจะให้ตนเองเป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้นหรือไม่ และควรแสดงการแจ้งเตือนผู้ใช้หรือไม่เมื่อตนเองไม่ได้เป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้น
ค่าตัวอย่าง:
0x00000001 (Windows), true (Linux), <true /> (Mac)
กลับไปด้านบน

DeveloperToolsDisabled

ปิดใช้งานเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์
ประเภทข้อมูล:
Boolean (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\DeveloperToolsDisabled
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
DeveloperToolsDisabled
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 9
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ปิดใช้งานเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์และคอนโซล JavaScript หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ เครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์จะไม่สามารถเข้าถึงได้ และองค์ประกอบในเว็บไซต์จะไม่ได้รับการตรวจสอบอีกต่อไป แป้นพิมพ์ลัดและเมนูใดๆ หรือรายการเมนูบริบทที่ใช้เปิดเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์หรือคอนโซล JavaScript จะถูกปิดใช้งาน
ค่าตัวอย่าง:
0x00000000 (Windows), false (Linux), <false /> (Mac)
กลับไปด้านบน

Disable3DAPIs

ปิดใช้งานการสนับสนุน API ของกราฟิก 3 มิติ
ประเภทข้อมูล:
Boolean (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\Disable3DAPIs
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
Disable3DAPIs
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 9
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ไม่มี
คำอธิบาย:
ปิดใช้งานการสนับสนุนสำหรับ API ของกราฟิก 3 มิติ การเปิดใช้งานการตั้งค่านี้จะป้องกันไม่ให้หน้าเว็บเข้าถึงหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หน้าเว็บที่ไม่สามารถเข้าถึง WebGL API และปลั๊กอินจะไม่สามารถใช้ API ของ Pepper 3 มิติ การปิดใช้งานการตั้งค่านี้อาจอนุญาตให้หน้าเว็บใช้ WebGL API และปลั๊กอินที่จะใช้ API ของ Pepper 3 มิติ การตั้งค่าเริ่มต้นของเบราว์เซอร์อาจยังต้องการอาร์กิวเมนต์บรรทัดคำสั่งที่จะถูกส่งผ่านไปเพื่อใช้ API เหล่านี้
ค่าตัวอย่าง:
0x00000000 (Windows), false (Linux), <false /> (Mac)
กลับไปด้านบน

DisablePluginFinder

ระบุว่าเครื่องมือค้นหาปลั๊กอินควรจะปิดใช้งานหรือไม่
ประเภทข้อมูล:
Boolean (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\DisablePluginFinder
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
DisablePluginFinder
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 11
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
หากคุณกำหนดการตั้งค่านี้เป็น "จริง" การค้นหาโดยอัตโนมัติและการติดตั้งปลั๊กอินที่หายไปจะถูกปิดใช้งานใน Google Chrome
ค่าตัวอย่าง:
0x00000001 (Windows), true (Linux), <true /> (Mac)
กลับไปด้านบน

DisableSpdy

ปิดใช้งานโปรโตคอล SPDY
ประเภทข้อมูล:
Boolean (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\DisableSpdy
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
DisableSpdy
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ปิดใช้งานโปรโตคอล SPDY ใน Google Chrome
ค่าตัวอย่าง:
0x00000001 (Windows), true (Linux), <true /> (Mac)
กลับไปด้านบน

DisabledPlugins

ระบุรายการปลั๊กอินที่ปิดใช้งาน
ประเภทข้อมูล:
List of strings
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\DisabledPlugins
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
DisabledPlugins
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ระบุรายการปลั๊กอินที่ถูกปิดใช้งานใน Google Chrome และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ คุณสามารถใช้อักขระของสัญลักษณ์แทน "*" และ "?" เพื่อจับคู่ลำดับอักขระที่กำหนดเอง "*" จะจับคู่กับจำนวนอักขระที่กำหนดเอง ส่วน "?" จะระบุอักขระเดี่ยวที่เป็นตัวเลือก เช่น การจับคู่กับเลข 0 หรืออักขระตัวหนึ่ง อักขระหลีก คือ "\" ดังนั้นหากต้องการจับคู่อักขระ "*", "?" หรือ "\" จริง คุณสามารถใส่ "\" ไว้หน้าอักขระเหล่านั้นได้ หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ รายการปลั๊กอินที่ระบุจะไม่ถูกนำมาใช้ใน Google Chrome ปลั๊กอินจะถูกทำเครื่องหมายเป็นปิดใช้งานใน "about:plugins" และผู้ใช้ไม่สามารถเปิดใช้งานปลั๊กอินเหล่านั้นได้ โปรดทราบว่านโยบายสามารถแทนที่โดย EnabledPlugins และ DisabledPluginsExceptions
ค่าตัวอย่าง:
Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\DisabledPlugins\1 = "Java" Software\Policies\Google\Chrome\DisabledPlugins\2 = "Shockwave Flash" Software\Policies\Google\Chrome\DisabledPlugins\3 = "Chrome PDF Viewer"
Linux:
["Java", "Shockwave Flash", "Chrome PDF Viewer"]
Mac:
<array> <string>Java</string> <string>Shockwave Flash</string> <string>Chrome PDF Viewer</string> </array>
กลับไปด้านบน

DisabledPluginsExceptions

ระบุรายการปลั๊กอินที่ผู้ใช้สามารถเปิดหรือปิดใช้งาน
ประเภทข้อมูล:
List of strings
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\DisabledPluginsExceptions
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
DisabledPluginsExceptions
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ระบุรายการปลั๊กอินที่ผู้ใช้สามารถเปิดหรือปิดใช้งานใน Google Chrome คุณสามารถใช้อักขระของสัญลักษณ์แทน "*" และ "?" เพื่อจับคู่ลำดับอักขระที่กำหนดเอง "*" จะจับคู่กับจำนวนอักขระที่กำหนดเอง ส่วน "?" จะระบุอักขระเดี่ยวที่เป็นตัวเลือก เช่น การจับคู่กับเลข 0 หรืออักขระตัวหนึ่ง อักขระหลีก คือ "\" ดังนั้นหากต้องการจับคู่อักขระ "*", "?" หรือ "\" จริง คุณสามารถใส่ "\" ไว้หน้าอักขระเหล่านั้นได้ หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ รายการปลั๊กอินที่ระบุจะถูกนำมาใช้ใน Google Chrome ผู้ใช้สามารถเปิดหรือปิดใช้งานปลั๊กอินเหล่านั้นใน "about:plugins" แม้ว่าปลั๊กอินจะจับคู่ตรงกับรูปแบบใน DisabledPlugins นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถเปิดหรือปิดใช้งานปลั๊กอินที่ไม่ตรงกับรูปแบบใดๆ ใน DisabledPlugins, DisabledPluginsExceptions และ EnabledPlugins
ค่าตัวอย่าง:
Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\DisabledPluginsExceptions\1 = "Java" Software\Policies\Google\Chrome\DisabledPluginsExceptions\2 = "Shockwave Flash" Software\Policies\Google\Chrome\DisabledPluginsExceptions\3 = "Chrome PDF Viewer"
Linux:
["Java", "Shockwave Flash", "Chrome PDF Viewer"]
Mac:
<array> <string>Java</string> <string>Shockwave Flash</string> <string>Chrome PDF Viewer</string> </array>
กลับไปด้านบน

DisabledSchemes

ปิดใช้งานสกีมโปรโตคอล URL
ประเภทข้อมูล:
List of strings
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\DisabledSchemes
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
DisabledSchemes
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 12
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ปิดใช้งานสกีมโปรโตคอลที่แสดงรายการใน Google Chrome URL ที่ใช้สกีมจากรายการนี้​​้จะไม่สามารถโหลดและคุณไม่สามารถสำรวจไปยัง URL เหล่านั้นได้
ค่าตัวอย่าง:
Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\DisabledSchemes\1 = "file" Software\Policies\Google\Chrome\DisabledSchemes\2 = "mailto"
Linux:
["file", "mailto"]
Mac:
<array> <string>file</string> <string>mailto</string> </array>
กลับไปด้านบน

DiskCacheDir

ตั้งค่าไดเรกทอรีสำหรับแคชของดิสก์
ประเภทข้อมูล:
String (REG_SZ)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\DiskCacheDir
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
DiskCacheDir
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 13
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ไม่มี
คำอธิบาย:
กำหนดค่าไดเรกทอรีที่ Google Chrome จะใช้สำหรับจัดเก็บไฟล์ที่เก็บแคชลงในดิสก์ หากคุณตั้งค่านโยบายนี้ Google Chrome จะใช้ไดเรกทอรีที่ระบุโดยไม่คำนึงถึงว่าผู้ใช้ได้ระบุการตั้งค่าสถานะ "--disk-cache-dir" ไว้หรือไม่
ค่าตัวอย่าง:
"${user_home}/Chrome_cache"
กลับไปด้านบน

DnsPrefetchingEnabled

เปิดใช้งานการคาดการณ์เครือข่าย
ประเภทข้อมูล:
Boolean (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\DnsPrefetchingEnabled
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
DnsPrefetchingEnabled
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
เปิดใช้งานการคาดการณ์เครือข่ายใน Google Chrome และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ หากคุณเปิดหรือปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนหรือแทนที่การตั้งค่านี้ใน Google Chrome
ค่าตัวอย่าง:
0x00000001 (Windows), true (Linux), <true /> (Mac)
กลับไปด้านบน

DownloadDirectory

ตั้งค่าไดเรกทอรีสำหรับดาวน์โหลด
ประเภทข้อมูล:
String (REG_SZ)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\DownloadDirectory
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
DownloadDirectory
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
กำหนดค่าไดเรกทอรีที่ Google Chrome จะใช้สำหรับการดาวน์โหลดไฟล์ หากคุณตั้งค่านโยบายนี้ Google Chrome จะใช้ไดเรกทอรีที่ระบุโดยไม่คำนึงถึงว่าผู้ใช้ได้ระบุไว้แล้วหรือไม่ หรือได้เปิดใช้งานการตั้งค่าสถานะที่จะปรากฏขึ้นเพื่อให้ระบุตำแหน่งการดาวน์โหลดทุกครั้งหรือไม่
ค่าตัวอย่าง:
"/home/${user_name}/Downloads"
กลับไปด้านบน

EditBookmarksEnabled

เปิดหรือปิดใช้งานการแก้ไขบุ๊กมาร์ก
ประเภทข้อมูล:
Boolean (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\EditBookmarksEnabled
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
EditBookmarksEnabled
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 12
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.12
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
เปิดหรือปิดใช้งานการแก้ไขบุ๊กมาร์กใน Google Chrome หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ คุณจะสามารถเพิ่ม นำออก หรือแก้ไขบุ๊กมาร์ก นี่เป็นค่าเริ่มต้น หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ คุณจะสามารถเพิ่ม นำออก หรือแก้ไขบุ๊กมาร์ก แต่บุ๊กมาร์กที่มีอยู่ยังคงใช้งานได้ต่อไป
ค่าตัวอย่าง:
0x00000000 (Windows), false (Linux), <false /> (Mac)
กลับไปด้านบน

EnabledPlugins

ระบุรายการปลั๊กอินที่เปิดใช้งาน
ประเภทข้อมูล:
List of strings
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\EnabledPlugins
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
EnabledPlugins
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ระบุรายการปลั๊กอินที่เปิดใช้งานใน Google Chrome และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ คุณสามารถใช้อักขระของสัญลักษณ์แทน "*" และ "?" เพื่อจับคู่ลำดับอักขระที่กำหนดเอง "*" จะจับคู่กับจำนวนอักขระที่กำหนดเอง ส่วน "?" จะระบุอักขระเดี่ยวที่เป็นตัวเลือก เช่น การจับคู่กับเลข 0 หรืออักขระตัวหนึ่ง อักขระ หลีก คือ "\" ดังนั้นหากต้องการจับคู่อักขระ "*", "?" หรือ "\" จริง คุณสามารถใส่ "\" ไว้หน้าอักขระเหล่านั้นได้ รายการปลั๊กอินที่ระบุจะถูกนำมาใช้ใน Google Chrome หากมีการติดตั้งไว้ ปลั๊กอินจะถูกทำเครื่องหมายเป็นเปิดใช้งานใน "about:plugins" และผู้ใช้ไม่สามารถปิดใช้งานปลั๊กอินเหล่านั้นได้ โปรดทราบว่านโยบายนี้จะแทนที่ทั้ง DisabledPlugins และ DisabledPluginsExceptions
ค่าตัวอย่าง:
Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\EnabledPlugins\1 = "Java" Software\Policies\Google\Chrome\EnabledPlugins\2 = "Shockwave Flash" Software\Policies\Google\Chrome\EnabledPlugins\3 = "Chrome PDF Viewer"
Linux:
["Java", "Shockwave Flash", "Chrome PDF Viewer"]
Mac:
<array> <string>Java</string> <string>Shockwave Flash</string> <string>Chrome PDF Viewer</string> </array>
กลับไปด้านบน

GCFUserDataDir

ตั้งค่าไดเรกทอรีข้อมูลผู้ใช้ของ Google Chrome Frame
ประเภทข้อมูล:
String (REG_SZ)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\GCFUserDataDir
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
GCFUserDataDir
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome Frame (Windows) ตั้งแต่รุ่น 12
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ไม่มี
คำอธิบาย:
กำหนดค่าไดเรกทอรีที่ Google Chrome Frame จะใช้สำหรับจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้ หากคุณตั้งค่านโยบายนี้ Google Chrome Frame จะใช้ไดเรกทอรีที่ระบุ
ค่าตัวอย่าง:
"${user_home}/Chrome Frame"
กลับไปด้านบน

IncognitoEnabled

เปิดใช้งานโหมดไม่ระบุตัวตน
ประเภทข้อมูล:
Boolean (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\IncognitoEnabled
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
IncognitoEnabled
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 11
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
เปิดใช้งานโหมดไม่ระบุตัวตนใน Google Chrome หากการตั้งค่านี้ถูกเปิดใช้งานหรือไม่ได้กำหนดค่าไว้ ผู้ใช้จะสามารถเปิดหน้าเว็บในโหมดไม่ระบุตัวตนได้ หากการตั้งค่านี้ถูกปิดใช้งาน ผู้ใช้จะไม่สามารถเปิดหน้าเว็บในโหมดไม่ระบุตัวตน
ค่าตัวอย่าง:
0x00000000 (Windows), false (Linux), <false /> (Mac)
กลับไปด้านบน

InstantEnabled

เปิดใช้งานค้นหาทันใจ
ประเภทข้อมูล:
Boolean (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\InstantEnabled
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
InstantEnabled
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 11
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
เปิดใช้งานคุณลักษณะค้นหาทันใจของ Google Chrome และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ การค้นหาทันใจของ Google Chrome จะถูกเปิดใช้งาน หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ การค้นหาทันใจของ Google Chrome จะถูกปิดใช้งาน หากคุณเปิดหรือปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนหรือแทนที่การตั้งค่านี้
ค่าตัวอย่าง:
0x00000001 (Windows), true (Linux), <true /> (Mac)
กลับไปด้านบน

JavascriptEnabled

เปิดใช้งาน JavaScript
ประเภทข้อมูล:
Boolean (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\JavascriptEnabled
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
JavascriptEnabled
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ไม่มี
คำอธิบาย:
เปิดใช้งาน JavaScript ใน Google Chrome และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้หรือไม่ได้กำหนดค่า หน้าเว็บจะสามารถใช้ JavaScript ได้ หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ หน้าเว็บจะไม่สามารถใช้ JavaScript
ค่าตัวอย่าง:
0x00000001 (Windows), true (Linux), <true /> (Mac)
กลับไปด้านบน

MetricsReportingEnabled

เปิดใช้งานการรายงานการใช้และข้อมูลเกี่ยวกับการขัดข้อง
ประเภทข้อมูล:
Boolean (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\MetricsReportingEnabled
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
MetricsReportingEnabled
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ไม่มี
คำอธิบาย:
เปิดใช้งานการรายงานการใช้และข้อมูลเกี่ยวกับการขัดข้องของ Google Chrome โดยไม่ระบุชื่อไปยัง Google และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ การรายงานการใช้และข้อมูลเกี่ยวกับการขัดข้องโดยไม่ระบุชื่อจะถูกส่งไปยัง Google หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ การรายงานการใช้และข้อมูลเกี่ยวกับการขัดข้องโดยไม่ระบุชื่อจะไม่ถูกส่งไปยัง Google หากคุณเปิดหรือปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนหรือแทนที่การตั้งค่านี้ใน Google Chrome
ค่าตัวอย่าง:
0x00000001 (Windows), true (Linux), <true /> (Mac)
กลับไปด้านบน

PolicyRefreshRate

อัตราการรีเฟรชนโยบาย
ประเภทข้อมูล:
Integer (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\PolicyRefreshRate
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
PolicyRefreshRate
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 1.0
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ระบุระยะเวลาเป็นมิลลิวินาทีเพื่อให้บริการการจัดการอุปกรณ์ค้นหาข้อมูลนโยบาย การตั้งค่านโยบายนี้จะแทนที่ค่าเริ่มต้นซึ่งอยู่ที่ 3 ชั่วโมง ค่าที่ถูกต้องสำหรับนโยบายนี้จะอยู่ในช่วงตั้งแต่ 30 นาทีถึง 1 วัน ค่าใดๆ ที่ไม่อยู่ในช่วงนี้จะถูกจำกัดตามขอบเขตที่เกี่ยวข้อง
ค่าตัวอย่าง:
0x0036ee80 (Windows), 3600000 (Linux/Mac)
กลับไปด้านบน

PrintingEnabled

เปิดใช้งานการพิมพ์
ประเภทข้อมูล:
Boolean (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\PrintingEnabled
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
PrintingEnabled
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
เปิดใช้งานการพิมพ์ใน Google Chrome และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ หากการตั้งค่านี้ถูกเปิดใช้งานหรือไม่ได้กำหนดค่า ผู้ใช้จะสามารถพิมพ์งานได้ หากการตั้งค่านี้ถูกปิดใช้งาน ผู้ใช้จะไม่สามารถพิมพ์จาก Google Chrome การพิมพ์จะถูกปิดใช้งานไว้ในเมนูเครื่องมือ ส่วนขยาย แอปพลิเคชันของ JavaScript ฯลฯ คุณยังสามารถพิมพ์จากปลั๊กอินที่ข้าม Google Chrome ในขณะพิมพ์ ตัวอย่างเช่น แอปพลิเคชัน Flash บางอย่างมีตัวเลือกการพิมพ์อยู่ในเมนูบริบท ซึ่งจะไม่ถูกปิดใช้งาน
ค่าตัวอย่าง:
0x00000001 (Windows), true (Linux), <true /> (Mac)
กลับไปด้านบน

SafeBrowsingEnabled

เปิดใช้งาน Safe Browsing
ประเภทข้อมูล:
Boolean (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\SafeBrowsingEnabled
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
SafeBrowsingEnabled
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ไม่มี
คำอธิบาย:
เปิดใช้งานคุณลักษณะ Safe Browsing ของ Google Chrome และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ Safe Browsing จะทำงานอยู่เสมอ หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ Safe Browsing จะไม่ทำงานเลย หากคุณเปิดหรือปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนหรือแทนที่การตั้งค่านี้ใน Google Chrome
ค่าตัวอย่าง:
0x00000001 (Windows), true (Linux), <true /> (Mac)
กลับไปด้านบน

SavingBrowserHistoryDisabled

ปิดใช้งานการบันทึกประวัติเบราว์เซอร์
ประเภทข้อมูล:
Boolean (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\SavingBrowserHistoryDisabled
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
SavingBrowserHistoryDisabled
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ปิดใช้งานการบันทึกประวัติเบราว์เซอร์ใน Google Chrome และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ หากการตั้งค่านี้ถูกเปิดใช้งาน ประวัติการเรียกดูจะไม่ได้รับการบันทึก หากการตั้งค่านี้ถูกปิดใช้งานหรือไม่ได้กำหนดค่า ประวัติการเรียกดูจะได้รับการบันทึกไว้
ค่าตัวอย่าง:
0x00000001 (Windows), true (Linux), <true /> (Mac)
กลับไปด้านบน

SearchSuggestEnabled

เปิดใช้งานคำแนะนำในการค้นหา
ประเภทข้อมูล:
Boolean (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\SearchSuggestEnabled
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
SearchSuggestEnabled
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
เปิดใช้งานคำแนะนำในการค้นหาในแถบอเนกประสงค์ของ Google Chrome และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ คำแนะนำในการค้นหาจะถูกนำมาใช้ หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ คำแนะนำในการค้นจะไม่ถูกนำมาใช้ หากคุณเปิดหรือปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนหรือแทนที่การตั้งค่านี้ใน Google Chrome
ค่าตัวอย่าง:
0x00000001 (Windows), true (Linux), <true /> (Mac)
กลับไปด้านบน

ShowHomeButton

แสดงปุ่ม "หน้าแรก" บนแถบเครื่องมือ
ประเภทข้อมูล:
Boolean (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\ShowHomeButton
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
ShowHomeButton
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
แสดงปุ่ม "หน้าแรก" บนแถบเครื่องมือของ Google Chrome หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ปุ่ม "หน้าแรก" จะแสดงเสมอ หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ปุ่ม "หน้าแรก" จะไม่แสดง หากคุณเปิดหรือปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนหรือแทนที่การตั้งค่านี้ใน Google Chrome
ค่าตัวอย่าง:
0x00000001 (Windows), true (Linux), <true /> (Mac)
กลับไปด้านบน

SyncDisabled

ปิดใช้งานการซิงค์ข้อมูลกับ Google
ประเภทข้อมูล:
Boolean (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\SyncDisabled
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
SyncDisabled
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 8
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
ปิดใช้งานการซิงค์ข้อมูลใน Google Chrome โดยใช้บริการการซิงค์ที่โฮสต์บน Google และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่านี้ หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนหรือแทนที่การตั้งค่านี้ใน Google Chrome
ค่าตัวอย่าง:
0x00000001 (Windows), true (Linux), <true /> (Mac)
กลับไปด้านบน

TranslateEnabled

เปิดใช้งานแปลภาษา
ประเภทข้อมูล:
Boolean (REG_DWORD)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\TranslateEnabled
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
TranslateEnabled
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Linux, Mac, Windows) ตั้งแต่รุ่น 12
  • Google Chrome OS (Google Chrome OS) ตั้งแต่รุ่น 0.11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ใช่
คำอธิบาย:
เปิดใช้งานบริการ Google แปลภาษาในตัวใน Google Chrome หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ Google Chrome จะแสดงแถบเครื่องมือในตัวเพื่อเสนอการแปลหน้าเว็บให้แก่ผู้ใช้ในกรณีที่เหมาะสม หากคุณปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่เห็นแถบการแปลดังกล่าว หากคุณเปิดหรือปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนหรือแทนที่การตั้งค่านี้ใน Google Chrome
ค่าตัวอย่าง:
0x00000001 (Windows), true (Linux), <true /> (Mac)
กลับไปด้านบน

UserDataDir

ตั้งค่าไดเรกทอรีข้อมูลผู้ใช้
ประเภทข้อมูล:
String (REG_SZ)
ตำแหน่งรีจิสทรีของ Windows:
Software\Policies\Google\Chrome\UserDataDir
ชื่อค่ากำหนด Mac/Linux:
UserDataDir
ได้รับการสนับสนุนบน:
  • Google Chrome (Windows) ตั้งแต่รุ่น 11
  • Google Chrome (Mac) ตั้งแต่รุ่น 11
คุณลักษณะที่ได้รับการสนับสนุน:
การรีเฟรชนโยบายแบบไดนามิก: ไม่มี
คำอธิบาย:
กำหนดค่าไดเรกทอรีที่ Google Chrome จะใช้สำหรับการจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้ หากคุณตั้งค่านโยบายนี้ Google Chrome จะใช้ไดเรกทอรีที่ระบุโดยไม่คำนึงว่าผู้ใช้ได้ระบุการตั้งค่าสถานะ "--user-data-dir" ไว้หรือไม่
ค่าตัวอย่าง:
"${users}/${user_name}/Chrome"
กลับไปด้านบน